เมนู

5.ทุติยอรหันตสูตร



รู้ความเกิดดับของอินทรีย์ 5 เป็นพระอรหันต์



[847] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ 5 ประการนี้ 5 ประการเป็น
ไฉน คือ สัทธินทรีย์ 1 วิริยินทรีย์ 1 สตินทรีย์ 1 สมาธินทรีย์ 1 ปัญ-
ญินทรีย์ 1 เมื่อใดแล ภิกษุรู้ชัดซึ่งความเกิด ความดับ คุณ โทษ และ
อุบายเครื่องสลัดออกแห่งอินทรีย์ 5 ประการนี้ ตามความเป็นจริงแล้ว เป็น
ผู้หลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น เมื่อนั้น เราเรียกภิกษุนั้นว่า พระอรหันตขีณาสพ
อยู่จบพรหมจรรย์ ทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว ปลงภาระลงแล้ว บรรลุประโยชน์
ของตนแล้ว สิ้นสังโยชน์ที่จะนำไปสู่ภพแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ.
จบทุติยอรหันตสูตรที่ 5

6. ปฐมสมณพราหมณสูตร



ผู้ไม่รู้ความเกิดดับของอินทรีย์ 5 ไม่นับว่าสมณะหรือพราหมณ์.



[848] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อินทรีย์ 5 ประการนี้ 5 ประการเป็น
ไฉน คือ สัทธินทรีย์ 1 วิริยินทรีย์ 1 สตินทรีย์ 1 สมาธินทรีย์ 1 ปัญ-
ญินทรีย์ 1 ก็สมณะหรือพราหมณ์พวกใดพวกหนึ่ง ไม่รู้ชัดซึ่งความเกิด
ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งอินทรีย์ 5 ประการนี้ ตาม
ความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์พวกนั้น เราไม่นับว่าเป็นสมณะในพวก
สมณะ หรือเป็นพราหมณ์ในพวกพราหมณ์ เพราะท่านเหล่านั้นยังไม่กระทำ

ให้แจ้ง ซึ่งประโยชน์ของความเป็นสมณะ หรือของความเป็นพราหมณ์ ด้วย
ปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.
[849] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนสมณะหรือพรหมณ์เหล่าใดรู้ชัด
ซึ่ง ความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออกแห่งอินทรีย์
5 ประการนี้ ตามความเป็นจริง สมณะหรือพราหมณ์เหล่านั้น เรานับว่าเป็น
สมณะในพวกสมณะ หรือเป็นพราหมณ์ในพวกพราหมณ์ เพราะท่านเหล่า
นั้นกระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ของความเป็นสมณะและของความเป็นพราหมณ์
ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.
จบปฐมสมณพราหมณ์สูตรที่ 6

7. ทุติยสมณพราหมณสูตร



ผู้รู้ชัดถึงความเกิดของอินทรีย์ 5 นับว่าเป็นสมณพราหมณ์



[850] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ไม่รู้ชัดซึ่งสัทธินทรีย์ ความเกิดแห่งสัทธินทรีย์ ความดับแห่งสัทธินทรีย์
และปฏิปทา อันให้ถึงความดับแห่งสัทธินทรีย์ ไม่รู้ชัดซึ่งวิริยินทรีย์ ฯลฯ
สตินทรีย์ ฯลฯ สมาธินทรีย์ ฯลฯ ไม่รู้ชัดซึ่งปัญญินทรีย์ ความดับแห่งปัญ-
ญินทรีย์ ปฏิปทาอันให้ถึงความดับแห่งปัญญินทรีย์ สมณะหรือพราหมณ์เหล่า
นั้น เราไม่นับว่าเป็นสมณะในพวกสมณะ หรือเป็นพราหมณ์ในพวกพราหมณ์
เพราะท่านเหล่านั้นยังไม่กระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์ของความเป็นสมณะหรือ
ของความเป็นพราหมณ์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่.